อันเนื่องมาจาก Camfrog : Reaction and Interaction

ปรากฏว่าบทความ “จาก TV reality สู่ Camfrog” นั้นได้จุดประกายให้เกิดความสนใจและข้อถกเถียงในกลุ่มของเพื่อนๆ ที่ได้อ่านหลายคน เกี่ยวกับสาเหตุของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับวัยรุ่นไทยในปัจจุบัน

นับว่าน่ายินดีที่บทความดังกล่าวได้สร้างความตื่นตัวให้เกิดการหันกลับมาทบทวนปรากฏการณ์ทางสังคม โดยมองผ่านดวงตาของการมองอย่างตรงไปตรงมา สร้างสรรค์และมุ่งแสวงหาคำตอบ ถึงแม้จะในกลุ่มเล็กนี้ก็ตาม

สิ่งที่ต้องการจะสะท้อนกลับไปยังเพื่อนผู้อ่านที่ได้แสดงปฏิกิริยาต่อเรื่องที่ได้บอกเล่าไปนั้น ก็คือการตั้งคำถามกลับเพื่อให้ช่วยกันคิด เพื่อแตกหน่อออกยอดของความคิดต่อไปอีกระดับ เกินกว่าที่มีอยู่ในตอนนี้ โดยหวังว่าคำถามพื้นฐานเหล่านี้จะช่วยให้เราแต่ละคนเข้าใจถึงสิ่งที่เรากำลังสนใจอยู่มากขึ้น ไม่มากก็น้อย

นี่ไม่ใช่แบบฝึกหัดที่ต้องการคำตอบ เพราะผมไม่มีคำตอบเบ็ดเสร็จให้ แต่อยากฝากให้เพื่อนนำไปไตร่ตรองเพื่อจะได้สร้างคำตอบที่เป็นระบบต่อปัญหาสังคมของพวกเรา

๑. สังคมไทยให้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออก โดยเฉพาะทางเพศ แตกต่างจากสังคมอื่นหรือไม่
๒. ความหมายของค่านิยมคืออะไร มีขอบเขตแค่ไหน เราสามารถเรียกสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นว่าเป็น “ค่านิยม” ของวัยรุ่นไทยได้หรือไม่
๓. ปัจจัยทางสังคม เศรษฐกิจและวัฒนธรรม ที่เราอ้างว่าเปลี่ยนแปลงไปนั้น มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของสังคมและค่านิยมทางสังคมหรือไม่ โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับพฤติกรรมการแสดงออกทางเพศของวัยรุ่นไทย
๔. ความแตกต่างระหว่าง “สิ่งที่เราเป็น”กับ”สิ่งที่เราถูกมองว่าเป็น” เกิดขั้นเพราะอะไร มีความสำคัญกับ”ความเป็นตัวตน”ของเราอย่างไร

คำถามนี้เป็นเพียงคำถามเงาของความคิดเห็นที่เพื่อนทุกคนให้ ซึ่งผมเองคิดว่าเมื่อเราหาคำตอบนี้ได้ ความคิดเห็นของทุกคนจะไม่เป็นเพียงความคิดเห็นหรือการคาดเดา แต่เป็นการพยายามสร้างแนวคิดเพื่อหาคำตอบอย่างเป็นระบบ

สุขสันต์วันปีใหม่

ความคิดเห็น

noka กล่าวว่า
สังคมไทยให้สิทธิในการแสดงออกทางเพศมากน้อย หรือแตกต่างแค่ไหนเป็นคำตอบที่ยากจะฟันธง โดยขนบธรรมเนียมของเราแล้วการแสดงออกยังคงมีกรอบบางๆที่คนไทยส่วนใหญ่ก็ยังปฏิบัติด้วยความเหมาะสม นี่หมายถึงภายนอกทีมองเห็น แต่โดยการเปลี่ยนแปลงของสังคมที่จะ Global ไปเรื่อยๆ เศรษฐกิจที่ยากจะพอเพียง และปัญหาเก่าแก่ที่ก็มีการพูดถึงในกระทู้มาพอสมควรคือกลุ่มประกอบการตรง (ให้บริการทางเพศ) ที่สร้างชื่อให้เมืองไทยไม่มากก็น้อย ก็แสดงตัวตนที่ชัดแจ้งว่าเมื่องไทยให้สิทธิในการแสดงออกโดยมิได้เอ่ยเป็นกฎหมายแแบบเบ็ดเสร็จ

คนต่างชาติเมื่อมาเยี่ยมชมเมืองไทยก็เยี่ยมชมหญิงไทยไปพร้อมกัน ไม่มีปัญหาโดนจับหรือตั้งข้อหาหาการกระทำอนาจารแต่อย่างใด ดังนั้นอาจกล่าวโดยนัยว่าสังคมไทยให้สิทธิที่ไม่น้อยและไม่มากไปกว่าสังคมอื่นได้หรือไม่

ส่วนค่านิยม ง่ายๆก็คือสิ่งที่คนประพฤติ ปฎิบัติกันโดยทั่วไปอย่างชมชอบ เช่นคนไทยมีนิสัยรักสวยรักงาม ก็สร้างค่านิยมในการชื่นชมคนจากรูปลักษณ์ภานนอก ทำให้คนส่วนมากมีค่านิยมในการปรุงแต่งตนเองให้ดูดีมากกว่าปรกติเป็นต้น ส่วนสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับวัยรุ่นไทยก็อยากจะบอกว่ามันเกี่ยวเนื่องกันมาจากจุดนี้ เด็กๆมองเห็นดารานักร้องแต่งตัวยั่วยวนผ่านสื่อจนเป็นเรื่องปรกติไปแล้ว การแสดงออกของเด็กรุ่นใหม่ก็กล้ามากขึ้นจากระบบการเรียนการสอนแบบอินเตอร์ มันเป็นผลต่อเนื่องกันมา

การแสดงออกทางเพศผ่านสือที่เรียกว่า Camfrog น่าคิดว่าสิ่งที่เด็กแสดงออกเกิดจากความกล้าแสดงออกอย่างเดียวหรือไม่ หรือเกิดจากการได้รับค่าตอบแทนในการแสดงด้วย เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นมันก็วนไปหาปัญหาเก่าแก่ แต่เปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอเท่านั้น ไม่ใช่ทำเพราะอยากดังอย่างเดียวหรือเสียงเชียร์ที่เป็นตัวกระตุ้นเท่านั้น

แน่นอนว่าปัจจัยทั้งหลายทั้งปวงที่ว่ามีผลต่อค่านิยมและโครงสร้างของสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มันกระทบกันเหมือนเป็นลูกโซ่

สิ่งที่เราถูกมองว่าเป็นจากคนภายนอก (ต่างชาติ) ก็เป็นการมองด้านเดียวจากสิ่งที่เราเป็น ถ้าเราจะมองว่าสำคัญก็ได้แล้วหาทางแก็ไข หรือเราจะมองว่าไม่สำคัญเพราะตัวตนที่แท้จริง (จากคนส่วนใหญ่) เราเองก็มีดีให้มองในอีกหลายด้าน ขึ้นกับว่าคนภายนอกจะให้เวลาและความสำคัญกับมันมากน้อยแค่ไหน

บทความที่ได้รับความนิยม