จดหมายถึงสามัญชน
ในรอบหลายปีที่ผ่านมา
การต่อสู้แย่งชิงอำนาจระหว่างพรรคการเมืองสองพรรคใหญ่ รวมทั้งกลุ่มผลประโยชน์ที่สนับสนุนขั้วอำนาจทั้งสองอยู่
ทั้งเบื้องหลังและเบื้องหน้า (ไม่ว่าจะแอบอ้างว่าทำไปเพื่ออะไรก็ตาม) ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง
ที่ล้วนแล้วแต่มุ่งพิทักษ์ รักษาประโยชน์ของชนชั้นนำ ไม่ฝ่ายใดก็ฝ่ายหนึ่ง หาได้มีผลดีกับชีวิตและความเป็นอยู่ของคนธรรมดา
และกรรมกรผู้ใช้แรงงาน ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศไม่
พวกเราน่าจะได้ตระหนักกันแล้วว่า ไม่ว่าชนชั้นนำกลุ่มไหน (ในนามของเสื้อสีเหลืองหรือแดงประชาธิปัตย์หรือเพื่อไทย
ฯลฯ) จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าสู่อำนาจ สภาพความเป็นอยู่ของพวกเรา คนทำงานกินเงินเดือนระดับล่างรวมทั้งกรรมกร
ก็ไม่เคยดีขึ้น มีแต่จะย่ำแย่ลง เพราะกลุ่มทุนขนาดใหญ่ก็ยังคงเอารัดเอาเปรียบคนจนอย่างที่เคยเป็นมา
ยิ่งไปกว่านั้น สิทธิเสรีภาพในการแสดงออก ทางความคิดความเห็น ก็มีแต่จะถูกริดรอนเพิ่มมากขึ้นทุกวัน
เพียงเพราะว่าบรรดาชนชั้นนำทั้งหลายยังไม่ได้มาซึ่งสิ่งที่ตนต้องการ
ในขณะที่เกมส์การต่อสู้นี้ยังคงดำเนินต่อไป ดูเหมือนเดิมพันของเกมส์นี้จะยิ่งสูงขึ้น
เมื่อชนชั้นนำฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่นำโดยประชาธิปัตย์ ได้เอาชีวิตและเลือดเนื้อของคนไทยเข้าวางเพื่อแลกกับอำนาจสำหรับฝ่ายของตน
สามัญชนคนธรรมดาที่เล็งเห็นคุณค่าความเป็นคนของเพื่อนไทยด้วยกัน
(ไม่ว่าพวกเขาจะมีความเชื่ออย่างไร) ก็ยิ่งรู้สึกอับจนสิ้นหนทาง เพราะเหมือนพวกเขาได้กำหนดทางเดินแคบๆ
ที่ตีบตันลงทุกที ลงมาให้พวกเราเดิน
อย่างไรก็ดี ท่ามกลางความมืดมิดและตีบตันนั้น
ดูเหมือนจะมีหน้าต่างบานเล็กๆ ที่เริ่มแย้มแสงสว่างเข้ามา ความบ้าระห่ำของกปปส. ที่ได้ผลักดันให้รัฐบาลที่มาจากวิถีทางประชาธิปไตยต้องถอยร่นจนมุมในทางตันนั้น
กลับทำให้พวกเรา เจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริงนั้นได้รับอำนาจกลับคืนมาในมือ
ถึงแม้ประสบการณ์ลุ่มๆ ดอนๆ ของการเมืองไทยจะสอนพวกเราว่า
การเลือกตั้งเกือบทั้งหมดจะเป็นแค่การไปประทับตรารับรองให้กับนักการเมือง
ที่พอได้รับเลือกตั้งเสร็จก็มักลุแก่อำนาจและใช้อำนาจไปตามอำเภอใจนั้น แต่การเคลื่อนไหวของกปปส.
ก็ได้สร้างเงื่อนไขที่ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้
มีคุณค่าเกินกว่าที่พวกเราจะละทิ้งและมองข้าม
มันจะเป็นการเมืองเชิงสัญลักษณ์ที่พวกเราจะได้ยืนยันถึงความเสมอภาค
และศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ที่พวกเรามี เท่าเท่ากับชนชั้นนำ
ที่กำลังดูหมิ่นดูแคลนสติปัญญาและคุณค่าของพวกเรา
นอกจากนี้ ไม่ใช่เพราะการเลือกตั้งหรอกหรือ ที่พวกเราได้ชิมรางรสชาดของอำนาจ
อำนาจที่พวกเราสามารถกำหนดรูปร่างหน้าตาของสังคมผ่านโยบายที่เราต้องการ
เช่นในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆ มา
นักการเมืองก็แข่งขันกันเสนอนโยบายเอาใจพวกเรา ไม่ว่าจะเป็นการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ
สำหรับพี่น้องคนใช้แรงงาน หรือนโยบายบริโภคนิยมสำหรับคนชั้นกลางทั่วไป
ที่สำคัญไปกว่านั้น หากไม่มีอะไรผิดพลาด
ดูเหมือนว่าในการเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้
พวกเราจะได้เห็นการเกิดขึ้นของพรรคการเมืองของประชาชนอีกหลายพรรค
ดังนั้น ถึงแม้การใช้สิทธิเลือกตั้งจะไม่ใช่กลไกที่สมบูรณ์
แต่ก็เป็นทางหนึ่งที่พวกเราจะได้ช่วยกันแสดงให้ชนชั้นนำไทยและคนในเมืองบางกลุ่มที่ชอบดูถูกพวกเราได้เห็นว่า
พวกเรานี่แหละที่จะกำหนดชะตาของพวกเราเอง!
พวกเราควรได้ตระหนักถึงข้อเท็จจริงเชิงประวัติศาสตร์ร่วมกันว่า
ประชาชนจำนวนมหาศาลที่ไม่สามารถรวมตัวกันได้นั้น
มักต้องถูกปกครองจากผู้ปกครองที่มีเพียงหยิบมือเดียว
ในระหว่างสองเดือนนี้ ขอให้พวกเราจงได้หวงแหนอำนาจและช่วยกันยืนยันถึงเจตจำนงค์ที่จะสนับสนุนพรรคการเมืองที่เกิดจากสามัญชน
เพื่อสามัญชน ไม่ใช่ชนชั้นนำ สำหรับคนที่มีกำลัง ก็ขอให้รวมกลุ่มและจัดตั้งกัน
เพื่อแสดงออกและสื่อสารถึงความปรารถนาไปยังพรรคการเมืองเหล่านั้น
ที่มักเล็กและไม่มีอำนาจเงินอย่างเช่นพรรคการเมืองของชนชั้นนำ
ขอให้พวกเราใช้การเลือกตั้งครั้งนี้
เป็นการประกาศถึงความปรารถนาของสามัญชน ให้ชนชั้นนำได้รู้ว่าประเทศนี้ที่แท้จริงเป็นของเรา
ความคิดเห็น